5 เมืองน่าเที่ยวในอุรุกวัย รวมสถานที่ท่องเที่ยวที่ห้ามพลาด

ท่องเที่ยวอุรุกวัย ประเทศในทวีปอเมริกาใต้ ที่มีเสน่ห์ด้วยสถาปัตยกรรมที่สวยงาม พิพิธภัณฑ์ เมืองเก่าแก่ ประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ สถานที่ท่องเที่ยวอุรุกวัยน่าสนใจมากมาย ทั้งชายหาด แต่ละเมืองก็มีความสวยงามและเอกลักษณ์ ใครที่เป็นสายชื่นชอบประวัติศาสตร์ ร่องรอยของอดีต วัฒนธรรมที่มีเอกลักษณ์ไม่ควรพลาด ทัวร์เที่ยวอุรุกวัย จะมีสถานที่ท่องเที่ยวอุรุกวัยที่ไหนกันบ้าง เมืองที่น่าเที่ยวไปดูกัน

เมืองแอตแลนทิด้า ( Atlantis )

Atlantida เป็นเมืองทางตอนใต้ของภูมิภาค Canelones บนชายฝั่ง Rio de la plata มีชายหาดท้องถิ่นที่สวยงามสองแห่งที่ล้อมรอบด้วยต้นสนตลอดแนว La Braya และ La Mansa Manya หาด Braya จะมีคลื่นมากกว่าหาด Manya ดังนั้นจึงเป็นที่นิยมในหมู่คนที่รักกีฬาทางน้ำ มีกิจกรรมทางน้ำให้ทำมากมายทั้งดำน้ำลึก ดำน้ำตื้น เซิร์ฟบอร์ด แต่ในฤดูหนาว ชายหาดเหล่านี้จะค่อนข้างร้าง ไม่เป็นที่นิยม ดังนั้นเราจึงไม่ควรไปในฤดูหนาว

มอนเตวิเดโอ ( Montevideo )

มอนเตวิเดโอเป็นเมืองหลวงของอุรุกวัย เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดและเป็นเมืองท่าเก่าแก่ของประเทศ มีมรดกทางสถาปัตยกรรมมากมายที่สร้างความประทับใจให้นักเขียน ศิลปิน และนักดนตรีหลายคน เมืองนี้มีประเพณีวรรณกรรมที่ยาวนานและมั่นคง และเต็มไปด้วยสถานที่ที่น่าสนใจมากมาย เช่น สภานิติบัญญัติ ทางเดินศิลปะที่มีภาพจิตรกรรมฝาผนังที่วาดโดยศิลปินชื่อดัง และ Palacio Salvo ตึกระฟ้าเก่าแก่ที่ออกแบบโดยสถาปนิกชาวอิตาลี เป็นหอคอยที่สูงที่สุดแห่งหนึ่งในละตินอเมริกา

ปุนตาเดลเอสเต ( Punta del Este )

ปุนตา เดล เอสเตเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีรีสอร์ตหรู เต็มไปด้วยคาสิโน ท่าเรือยอทช์ โรงแรมดีไซน์สวยงาม และร้านค้าอาคารหรูหรา ยังมีชายหาดที่เหมาะสำหรับครอบครัว เช่น หาดมันสาสำหรับเล่นกีฬาทางน้ำ อุณหภูมิในเดือนธันวาคมเป็นช่วงที่อากาศเย็นสบายและเงียบสงบ น้ำทะเลใสราวกับคริสตัล คลื่นน้อยไม่สูงมาก เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบชายหาด การอาบแดด เล่นน้ำชิลๆและการตกปลา ทิวทัศน์มีเอกลักษณ์โดยเฉพาะ Praia Mansa สามารถมองเห็นได้ชัดเจนจากท่าเรือ เหมาะสำหรับการเดินเล่นชิลๆ พักผ่อนหย่อนใจ

โคโลเนีย เดล ซาคราเมนโด ( Colonia del Sacramento )

Colonia del Sacramento ย่านประวัติศาสตร์แห่งนี้ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของอุรุกวัย เป็นหนึ่งในเมืองที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศ นอกจากนี้ยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกอีกด้วย ถนนที่ปูด้วยหินเก่าแก่สมัยศตวรรษที่ 17 อยู่ห่างจากท่าเรือข้ามฟากของเมืองในระยะที่สามารถเดินไปถึงได้ สถานที่ท่องเที่ยว ได้แก่ Basilica del Santisimo Sacramento, Sacrament Basilica ที่สร้างโดยชาวโปรตุเกสในปี 1808 และบ้านสไตล์โปรตุเกสยุคศตวรรษที่ 18 Casa de Nacarello เป็นอีกหนึ่งเมืองที่มีความสวยงามมากๆ

คาซาปูเอโบล ( Casapueblo )

Casa Pueblo อาคารเก้าชั้นสีขาวแห่งนี้สร้างโดย Carlos Paez Vilaro ศิลปินชาวอุรุกวัยเพื่อเป็นสถานที่พักผ่อนในปุนตา เดล เอสเต และเวิร์กช็อปต่างๆ ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ หอศิลป์ โรงแรม ร้านกาแฟ และร้านอาหาร และมีสีสันคึกครื้นในช่วงที่พระอาทิตย์ตกดิน อาคารโอ่อ่าตระการตาได้รับการยอมรับในระดับสากลว่าเป็น “ประติมากรรมที่มีชีวิต” มีความสวยงามมากๆ

วิธีการเดินทางไปอุรุกวัย

จากประเทศไทยไปอุรุกวัย ใช้เวลาเดินทางเริ่มต้นที่ 31 ชั่วโมง โดยมีสายการบินให้บริการดังนี้

• โคเรียนแอร์
• LATAM
• อาซุล
• ไอโรลีเนียสอาร์เคนตินาส
• กาตาร์แอร์เวย์
• เอธิโอเปียนแอร์ไลน์
• เอมิเรตส์
• GOL อินเทลลิเจนท์แอร์ไลน์
• การบินไทย
• แอร์แคนาดา
• ลุฟท์ฮันซา
• สวิส

บริษัททัวร์เที่ยวอุรุกวัย

ใครที่มีแพลนเที่ยวอุรุกวัยในใจกันแล้ว และไม่อยากเดินทางเที่ยวอุรุกวัยด้วยตัวเอง เรามีทัวร์เที่ยวอุรุกวัยมาแนะนำให้กับทุกคนกัน

Reigninter : ทัวร์อเมริกาใต้ อาร์เจนติน่า – เปรู – บราซิล – อุรุกวัย17 วัน